Top 10 อาหาร & สมุนไพร ดีท็อกซ์ตับได้ดีที่สุด!

12 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Top 10 อาหาร & สมุนไพร ดีท็อกซ์ตับได้ดีที่สุด!

1. มิลค์ทิสเซิล (Milk Thistle - Silymarin)

 


          มิลค์ทิสเซิลเป็นสมุนไพรที่ใช้ในการรักษามานานหลายศตวรรษ โดยมีการบันทึกว่ามีอายุเก่าแก่ที่สุดย้อนไปถึงคริสตศตวรรษแรก ซิลิมารินเป็นหนึ่งในสารที่ออกฤทธิ์ในมิลค์ทิสเซิล ซึ่งเป็นกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติในการปกป้องและดีท็อกซ์ตับที่นิยมที่สุด      

  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ คือ ไซลิมาริน (Silymarin) ช่วยต้านการอักเสบ
  • ปกป้องเซลล์ตับจากความเสียหายจากออกซิเดชัน ลดความเสียหายหรือการถูกทำลายของเซลล์ตับที่เกิดจากการทานยาต่างๆ, การรับสารพิษสารเคมี, การรับยาเคมีบำบัด, โลหะหนัก, แอลกอฮอล์, มลภาวะต่างๆ 
  • ช่วยลดค่าเอนไซม์ตับในผู้ป่วยโรคตับ
  • กระตุ้นการสร้างเซลล์ตับใหม่
  • ช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม ปอด และตับ
  • ผลดังกล่าวทำให้มิลค์ทิสเซิลเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคตับต่างๆ รวมถึง โรคตับอักเสบซี (Hepatitis C ), โรคตับจากแอลกอฮอล์


     ถือเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และถือเป็นทางเลือกเสริม สำหรับผู้ที่เป็นโรคต่างๆที่เกี่ยวกับตับ แต่อาจเกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อยในบางรายได้ เช่น คลื่นไส้หรือปวดศีรษะได้ แต่มักไม่รุนแรงและเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก


   ปริมาณการใช้ที่แนะนำต่อวัน คือ 50- 300 มิลลิกรัม
  เพื่อบำรุงตับ: วันละ 50-150 มิลลิกรัม
  เพื่อการดีท็อกซ์-บำบัดโรคที่เกี่ยวกับตับวัน ครั้งละ 150 มิลลิกรัม (1-3 ครั้งต่อวัน​​)




2. แดนดิไลออน (Dandelion)

 

 

  • ทั้งรากและใบของแดนดิไลออน ผสานด้วยคุณประโยชน์ที่ช่วยในการดีท็อกซ์ตับ
  • ช่วยให้ตับแข็งแรงโดยส่งเสริมการกำจัดสารพิษ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ 
  • ช่วยสนับสนุนสุขภาพของระบบย่อยอาหาร
  • ขับปัสสาวะตามธรรมชาติ เพื่อช่วยในการขับสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

   วิธีการทำชาแดนดิไลออน
  ส่วนผสม: 
  1. รากแดนดิไลออนแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  2. ใบแดนดิไลออนแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำ 2 ถ้วย
   วิธีเตรียม: 
  1. ผสมรากแดนดิไลออนแห้งและใบอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ในหม้อกับน้ำ 2 ถ้วย
  2. นำไปต้ม จากนั้นลดไฟและเคี่ยวเป็นเวลา 15 นาที
  3. กรองชาใส่ถ้วย ทิ้งกากออกไป พร้อมเสิร์ฟ

 

3. ชาเขียว  (Green tea)

 

 
 
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันมากที่สุดในโลก และยังถูกนำมาใช้เป็นยาแผนโบราณ
ชาเขียวทำมาจากพืชที่มีชื่อว่า Camellia Sinensis
 
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบในตับ
  • ช่วยล้างพิษตับ โดยทำหน้าที่กรองสารพิษออกจากเลือด
  • ช่วยเพิ่มเอนไซม์ของตับที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารพิษต่างๆ และแอลกอฮอล์
  • มีสารคาเทชิน (catechins) ซึ่งเป็น phytochemical ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • มีวิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินอี, โพแทสเซียม, แมงกานีส และแร่ธาตุอื่นๆ
 
  อย่างไรก็ตาม การดื่มชาเขียวอาจมีข้อควรระวัง:
ชาเขียวอาจขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก เพราะชาเขียวมีสารแทนนิน (tannins) ที่สามารถจับกับธาตุเหล็กในลำไส้ และขัดขวางไม่ให้ธาตุเหล็กถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกายของคุณได้

.

 

4.เห็ดถั่งเช่า (Cordyceps Mushrooms)

  • เป็นยาขับพิษที่มีประสิทธิภาพต่อตับ
  • ช่วยปกป้องเซลล์ตับจากความเสียหาย
  • ช่วยให้ตับกรองสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมการผลิตน้ำดีซึ่งช่วยสลายไขมัน และกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

      อย่างไรก็ตาม หากรับประทานเห็ดถั่งเช่าในปริมาณมาก อาจมีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดท้อง, ท้องเสีย, อาเจียน หากคุณพบผลข้างเคียงใดๆ ให้หยุดรับประทาน และไปพบแพทย์ทันที




5. อาร์ติโชค (Artichoke)


  • เป็นพืชที่ช่วยล้างพิษตับได้ดี เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและไฟโตนิวเทรียนต์ (phytonutrients) ในปริมาณสูง
  • มีส่วนช่วยปกป้องตับจากความเสียหายต่างๆ และช่วยปรับปรุงการทำงานของตับ
  • เป็นแหล่งของแร่ธาตุและวิตามิน A,  C และ E ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
  • มีไฟเบอร์พรีไบโอติก ซึ่งช่วยส่งเสริมให้จุลินทรีย์ในลำไส้มีสุขภาพดี
  เป็นอาหารที่ค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงหรือข้อควรระวังใดๆ หากทานในปริมาณที่พอเหมาะ 



6.ขมิ้น (Turmeric)


ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรต้านมะเร็งอันดับ #1 ที่ใช้มานานมากกว่า 6,000 ปี เป็นสมุนไพรที่มีการทำงานวิจัยและทดสอบมากที่สุด กว่า 50 ปีมาแล้ว! ในขมิ้นชันมีสารออกฤทธิ์สำคัญที่เรียกว่า เคอร์คิวมินอยด์ (Curcuminoids)

ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมากเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว


  • ช่วยปกป้องตับจากความเสียหายจากการอักเสบ และอนุมูลอิสระ
  • ปรับปรุงการทำงานของตับ
  • ช่วยส่งเสริมการล้างพิษโดยกระตุ้นการผลิตน้ำดี


  ทานได้ทั้งแบบสด, แบบผง และสกัดแคปซูล
    เวลาทานให้ผสมพริกไทยดำป่น เพื่อเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสารสามารถดูดซึมนำสาร Curcumin ไปใช้ได้


  อย่างไรก็ตาม การทานขมิ้นอาจมีผลข้างเคียงได้เช่นกัน เช่น การอาการรู้สึกไม่สบายท้อง
และมีผลกับยาบางชนิด ดังนั้นหากคุณมีโรคประจำตัวที่มีการทานยาประจำ ควรปรึกษากับแพทย์ร่วมด้วย




7. กระเทียม (Garlic)


  • กระเทียมเป็นเครื่องเทศที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งมากที่สุดอันดับ #1 
  • มีคุณสมบัติในการล้างพิษตับ
  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการผลิตน้ำดี ซึ่งจะช่วยขับสารพิษออกไป
  • เป็นยาปฏิชีวนะ และสารต้านการอักเสบจากธรรมชาติที่ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อ และลดการอักเสบได้


  อย่างไรก็ตาม การทานกระเทียมในปริมาณมากๆสามารถทำให้เลือดเจือจางได้ 
ดังนั้นผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง


8. สาหร่ายสไปรูลิน่า (Spirulina)



  • สาหร่ายสไปรูลิน่าสามารถช่วยป้องกันความเสียหายของตับและตับวาย
  • มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยขับสารพิษที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย
  • กำจัดโลหะหนักออกจากร่างกายได้
  • ช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้นโดยการซ่อมแซมเซลล์ตับ
  • มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง


9. คลอเรลลา (Chlorella) 

  • คลอเรลลาประกอบด้วยคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นเม็ดสีที่จะจับและช่วยกำจัดสารพิษ เช่น โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม และปรอท และยาฆ่าแมลงออกจากร่างกายwfh
  • สนับสนุนกระบวนการกำจัดสารพิษตามธรรมชาติของร่างกาย
  • ช่วยปรับปรุงการทำงานของตับในผู้ที่เป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็ง
  • ส่งเสริมการขับถ่ายให้เป็นปกติ และช่วยกำจัดของเสียและสารพิษออกจากระบบย่อยอาหาร
  • มีสาร antioxidants เช่น vitamins A, C, and E ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่อาจทำอันตรายต่อเซลล์ได้


10. สาหร่าย Dulse



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้