มีสมุนไพรเป็นพันๆชนิดที่ใช้รักษามะเร็งมาแล้วหลายพันปี จริงอยู่ว่ามันไม่ได้การันตีเลยว่าจะรักษามะเร็งได้ทั้งหมด แต่มันสามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้ โดยไม่เป็นพิษต่อร่างกาย และยังดีทอกซ์ร่างกายได้อีกด้วย ถ้าคุณอยากเริ่มใช้สมุนไพรเป็นยาให้เริ่มที่กินกระเทียมและขมิ้นมากขึ้น ใส่ในอาหารหรือจะกินเป็นแบบแคปซูลเป็นอาหารเสริม จะปลอดภัยที่สุด
ถ้าคุณได้อ่านถึงวันที่9 ตอนนี้คุณก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า การกินอาหารแบบรวมทั้งหมด (Whole Foods) มีความสำคัญต่อการต้านมะเร็งขนาดไหน แต่คุณอาจจะยังต้องการคำแนะนำว่าทำยังไงเราจะกินอาหารได้อย่างถูกต้องและอร่อยด้วย โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะยอมเปิดรับไอเดีย การทำอาหารแบบใหม่ๆ ส่วนผู้ชายนั้นโดยทั่วไปไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยการกินที่เค้าเคยกินมาแล้ว 50 ปี
มันน่ามหัศจรรย์มากถ้าเรารู้ว่าการรักษามะเร็งมันง่ายขนาดไหน นักวิจัยได้ใช้เวลานานกว่า 33 ปี และเงินล้านล้านกว่าดอลลาร์ เพื่อค้นหาวิธีรักษามะเร็ง แต่จริงๆแล้ว ธรรมชาติได้ค้นหาวิธีแก้ให้พันกว่าปีมาแล้ว เซลล์มะเร็งมันอยู่ในตัวเราตลอดเวลา อยู่ที่ว่ามันจะโตขึ้นมาเมื่อไหร่ ธรรมชาติได้สร้างอาหารโฮลฟู้ดขึ้นมาเพื่อช่วยกำจัดมะเร็ง
ระบบภูมิคุ้มกันของคนประกอบด้วยเซล ล้านล้าน เซล ที่จะต้องทำหน้าที่เหมือนเป็นตำรวจปกป้องเซลดี และกำจัดขยะในร่างกายออกไป รวมทั้งเซลล์มะเร็ง, ยีสต์, เชื้อไวรัส, และเซลล์ที่เสื่อมตายไปแล้ว แต่ถ้าคุณป่วยด้วยโรคมะเร็ง ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะทำงานผิดปกติ สิ่งที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราคือ ความเครียด, สารพิษในร่างกาย, และการขาดสารอาหาร หรือการกินที่ไม่ถูกต้อง
การรักษามะเร็งด้วยคีโมและฉายแสงอาจจะฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นสารพิษที่ทำลายเซลล์ดีด้วย ผู้ป่วยควรจะมีโภชนาการอาหารที่ดีเพื่อที่จะปกป้องเซลล์ดีไม่ให้มีผลกระทบมากในขณะให้การรักษา การได้รับสารอาหารที่ถูกต้อง มันจะทำให้ยาคีโมและการฉายแสงมีประสิทธิภาพต่อเซลล์มะเร็งมากขึ้นและเกิดผลข้างเคียงต่อเซลล์ดีน้อยลง
40%ของ ผู้ป่วยมะเร็งจริงๆแล้วตายจากการขาดสารอาหารไม่ใช่ตายจากโรคมะเร็ง เซลมะเร็งมันหลั่งสารเคมีอย่างหนึ่งออกมา ทำให้เราไม่อยากอาหาร แต่มันต้องใช้แคลอรี่ของเรามากขึ้น เราไม่สามารถต่อสู้กับโรคนี้ได้เลยถ้าเราไม่กินอาหารให้เพียงพอ เราต้องกินอาหารที่ดีและถูกต้อง เพื่อไปเพิ่มระบบภูมิต้านทาน และฆ่าเซลมะเร็ง
น้ำตาลเป็นอาหารของมะเร็ง เราสามารถชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งด้วยการลดอาหารที่ไปทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโต สมัยนี้คนเรากินอาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาล รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆล้วนแต่ผสมไปด้วยน้ำตาลทั้งนั้น เราจึงเห็นคนเป็นโรคที่มีกลูโคสสูงรวมทั้งโรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคความดันและการติดเชื้อจากยีสต์
จงอย่าหวังพึ่งวิตามินตัวใดตัวหนึ่งจะฆ่าเซลล์มะเร็งได้ ไม่มีอะไรที่เป็นปาฏิหาริย์ การกำจัดเซลล์มะเร็งต้องใช้สารอาหารหลายตัวรวมกันเพื่อให้สารอาหารแต่ละตัวมันไป ส่งเสริมให้กันและกัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นหลายเท่า ร่างกายเราต้องการสารอาหารที่จำเป็น 50 อย่าง แล้วยังต้องใช้สารอาหารอย่างอื่นอีกเป็น 100 กว่าชนิด
ลองคุยกับหมอหลายๆท่านว่าให้ความเห็นแตกต่างกันในการวินิจฉัยโรคมะเร็งของเราหรือไม่ ลองศึกษาค้นคว้าหาความรู้ดูจากคนที่รู้ข้อมูลจริงๆ ว่าทางไหนเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง สมัยนี้ข้อมูลหาได้ง่ายมาก
เราต้องปลดความกลัวให้ได้ คนเราเกิดมาทุกคนต้องตาย อยู่ที่ว่าใครจะตายเมื่อไหร่ เมื่อเราเป็นมะเร็งเราจะปล่อยให้ตายไปง่ายง่ายกับโรคนี้เหรอ ทำไมเราไม่ต่อสู้จนถึงที่สุด มีคนหลายคนที่หายจากโรคนี้แม้แต่คนที่เป็นระยะสุดท้ายก็ยังหายได้ ลองสร้างความหวังและสร้างพลังต่อสู้ให้ถึงที่สุด ลองทำตามคำแนะนำนี้ดูนะคะ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความหวานจากน้ำตาลทำให้รสชาติของอาหารและเครื่องดื่มอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ว่าเราจะทานอาหารหรือเครื่องดื่มประเภทใด น้ำตาลก็จะเข้ามาเป็นองค์ประกอบเสมอ โดยในหนึ่งวันคนเราทานน้ำตาลเข้าไปในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกายโดยไม่รู้ตัว เราแทบจะไม่เคยควบคุมหรือคิดคำนวนปริมาณการทานน้ำตาลในแต่ละวันด้วยซ้ำ
โรคมะเร็งทำลายล้างมนุษยชาติอย่างไม่รู้จบในทุกปี ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์ดำเนินการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อหยุดภัยพิบัติมะเร็ง เพราะวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันตนเองจากมะเร็ง โดยผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเอาไว้ในงานวิจัยว่าเราสามารถดูแลตนเองให้ห่างไกลจากมะเร็งได้ไม่ยากด้วยวิตามินซี (Vitamin C)
โรค NCDs (Non-communicable diseases) หรือ โรคที่ไม่เกิดจากเชื้อโรค แต่เป็นโรคที่่เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น การกิน การไม่ออกกำลังกาย ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคไต โรคตับแข็ง โรคความดัน โรคหลอดเลือดสมอง
ในบรรดาชาทั้งหลาย ชาเขียวมีประโยชน์มากที่สุด เพราะไม่ผ่านการหมัก และส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่สูญเสีย ในชาเขียวนั้นประกอบด้วยสารประกอบต่างๆมากมาย ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสารประกอบที่มีชื่อว่า EGcG
ทำไมหลายๆคน ถึงเลิกกินของหวานๆ เช่น ชานม ลูกอม ช็อกโกแล็ต ไม่ได้ ดูเหมือนว่าการเสพติดรสหวาน ก็ไม่ได้ต่างจากการติดยาเสพติดเลย นักวิชาการได้วิจัยหาสาเหตุถึงการเลิกไม่ได้โดยตั้งข้อสมมุติฐานว่า