เปาดาร์คู 1090 มก. Pau d 'Arco 100 caps Inner Bark
Pau D'arco (Tabebuia impetiginosa or Tabebuia avellanedae) - ชมพูระย้าทิพย์
เปาดาร์คู (ชมพูระย้าทิพย์) เป็นสมุนไพรต้านมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้านเชื้อราแคนดิดา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าดงดิบในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ชาวพื้นเมืองนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่ก่อนอาณาจักรอินคา ทุกวันนี้ชาวบราซิลเรียกต้นชมพูระย้าทิพย์ว่า pau d’Arco หรือ “ต้นไม้ศักดิ์สิท ธิ์” เปลือกและไม้ของชมพูระย้าทิพย์ใช้ในการทำยาและถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการต่างๆมานานแล้ว
สรรพคุณ
- สามารถยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก และมะเร็งได้
- กระตุ้นการทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการฆ่าตัวตาย (apoptosis)
- มีสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า เควร์อซิติน (Quercitin)
- มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ไวรัสและเชื้อรา
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และลดอาการบวมน้ำ
- เป็น "ยาบำรุงกำลังและสร้างเลือด"
- ใช้บำบัดโรคได้หลายโรคเช่น เบาหวาน
- โรคโลหิตจาง
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร (โรคกระเพาะ)
- โรคตับ
- โรคหอบหืด และหลอดลมอักเสบ
- อาการปวดข้อ
- การติดเชื้อทางเดินหายใจ ไวรัส เข่น โรคไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในและละซิฟิลิส
- การติดเชื้อของต่อมลูกหมากและกระพาะปัสสวะ
- โรคกลากเกลื้อนและผิวหนังอักเสบ
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- โรคอุจจาระร่วงติดเชื้อ
วิธีทาน:
- สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
เริ่มทานครั้งละ 1 แคปซูล 500 mg วันละ 1 ครั้งแล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 3 ครั้งต่อวัน ทานพร้อมมื้ออาหาร หรือหลังอาหาร สูงสุดห้ามเกิน 12 แคปซูลต่อวัน
- สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการป้องกันมะเร็ง
รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1-2 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร หรือหลังอาหาร
ข้อควรระวังในการใช้และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ถ้าเป็นโรคไตขั้นรุนแรงไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากกว่า 1.5 กรัม (1,500 มิลลิกรัม) เพราะอาจเป็นพิษและก่อให้เกิดความเสียหายต่อไตหรือตับ
- การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้อาเจียนอย่างรุนแรง ปวดท้อง เป็นลมหรืออุจจาระเป็นเลือดได้
- ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนและท้องร่วง ผลข้างเคียงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้กับบางคน ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของเเต่ละบุคคล การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง ปวดท้อง เป็นลมและอุจจาระเป็นเลือด
- ควรหยุดใช้อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท เพราะอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดระหว่างและหลังการผ่าตัด
- เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้อาจชะลอการแข็งตัวของเลือดได้ จึงไม่ควรใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Coumadin (warfarin) หรือยาต้านเกล็ดเลือดเช่น Plavix (clopidogrel) เช่นเดียวกับการใช้ร่วมกับยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น Advil (ibuprofen), Aleve (naproxen) และ Voltaren (diclofenac) หากใช้ร่วมกันอาจทำให้เกิดการเลือดออกในกระเพาะอาหารและอาจก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
- ไม่ควรใช้ในเด็ก สตรีมีครรภ์หรือมารดาที่ให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคไตและตับ ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์
ถ้าสนใจสั่งซื้อ Line ID : @nataliehealthshop